รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ ถ้าหากใครที่ติดตามหนังภาพยนตร์ไทย เลือดอีสานของจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ มาโดยตลอด เชื่อว่าคุณย่อมต้องรู้จัก และคุ้นเคยกับบทของหมอประจำอนามัยนางหนึ่ง ที่มีหน้าตาสุดน่ารัก อีกทั้งยังสวมแว่นอีกตังหาก ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ ดูหนังใหม่ นอกเสียจากคุณหมอปลาวาฬคนสวย อดีตหวานใจของบักลอด พระเอกอีกคนของจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ นั่นเอง และการมาของหนังเดี่ยวในชื่อของ ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ ก็เป็นเสมือนการกลับไปโฟกัส หรือขยี้เรื่องราวของบักลอด และหมอปลาวาฬ ให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

เนื่องจากเราเป็นแฟนหนังของจักรวาลไทบ้านเดอะซีรีส์ก็ตั้งแต่ภาคแรกนั่นแหละ แล้วเราก็เจ็บใจแทนหมอปลาวาฬอยู่ ที่ว่าจ่าลอดตกหลุมรักหมอปลาวาฬเป็นคนแรกแต่ดันไปเลือกครูแก้ว ทำเอาหมอปลาวาฬต้องเสียน้ำตา รีวิวหนังไทย พอมามีภาคแยกเฉพาะแบบนี้ทำให้เราตั้งตารอคอยเข้าโรงที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจากพิษโควิด19 จนได้ดูในโรงเสียที แล้วก็รอดูซ้ำอีกรอบทางสตีมนี่แหละ ในที่สุดก็มาสักที  

แล้วมันมีฉากสวย ๆ ในทุ่งนาระหว่างจ่าลอดกับหมอปลาวาฬอยู่ ที่อยากกลับไปดูอีกซ้ำ ๆ บทของหมอปลาวาฬเป็นเหมือนตัวแทนของคนที่โดนเขาเท แล้วยังตัดใจไม่ได้อยู่นานปี ต้องมาตามดูกันว่าในภาคนี้หมอปลาวาฬจะมูฟออนจากเรื่องราวความรักกับจ่าลอดไปได้อย่างไร

ถ้าหากผู้ชมคนไหนที่อยากรู้ว่าหนังเรื่องนี้จะจบลงยังไง ? และบทสรุปสุดท้ายจะลงเอยอย่างไร ? มาติดตามรับชมการแนะนำหนังไปพร้อม ๆ กันในบทความนี้ได้เลยค่ะกับ รีวิวหนัง มนต์รักนักพากย์ (2023)

รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์

รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ เรื่องย่อ

ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ เป็นหนัง Spin-off ภาคแยกของจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่ได้ออกฉายไปเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 โดยผู้กำกับเจ้าเดิม สุรศักดิ์ ป้องศร โดย ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ ภาคนี้ จะเป็นการกลับไปขยี้ปมความรักระหว่างบักลอด และคุณหมอปลาวาฬ จากภาคแรก ที่ยังคงมีความรู้สึกดีๆ ผูกพันกันอยู่ ยังไม่เลือนหายไปง่ายๆ ดังนั้น เราไปเช็คเรื่องย่อของภาคนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ

โดยเรื่องราวเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้ เปิดเรื่องโดยโฟกัสไปที่เหตุการณ์หนึ่งในอดีตของ หมอปลาวาฬ กับความรู้สึกอันแสนหดหู่ที่ไม่สามารถช่วยเด็กจากการจมน้ำได้ แต่ก็มีบักลอดนี่แหละ ที่มาทำให้ หมอปลาวาฬ สามารถกลับมามีชีวิตชีวา และสอนอะไรให้หลายๆ อย่าง 

แล้วเรื่องราวก็ได้วนเวียนมายังในยุคปัจจุบัน หมอปลาวาฬ ก็ยังคงทำหน้าที่ของการเป็นแพทย์ประจำอนามัย ร่วมกับ หมอแจ็ค ที่ต่างก็ชอบพอ หมอปลาวาฬ ด้วยเช่นกัน ซึ่งก็ยังไม่วายที่ทุกครั้งที่เจอกันระหว่าง หมอปลาวาฬ กับบักลอด ก็ยังคงมีความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนค้างคาใจอยู่เสมอ ถึงแม้ปัจจุบันบักลอดจะกำลังคบกับครูแก้วอยู่ก็ตามที

และเมื่อครูแก้วมีภารกิจสำคัญต้องพาเด็กๆ ไปแข่งกีฬายังต่างจังหวัด หลายวัน นั่นจึงทำให้บักลอด ได้โอกาสดีที่อยากจะกลับไปสานสัมพันธ์กับหมอปลาวาฬอีกครั้ง โดยที่ไม่รู้เลยว่าการกลับมาคุยกัน และเริ่มคุยกัน นั่นคือจุดเริ่มต้นของการสร้างความสัมพันธ์ในอีกรูปแบบหนึ่ง ที่นำพามาซึ่งความเจ็บปวดที่สุด โดยไม่สามารถหลักเลี่ยงได้

รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์

แนะนำตัวละครหลัก

หมอปลาวาฬ ตัวเอกของเรื่องในภาคนี้ คนแรกที่ทำให้จ่าลอดตกหลุมรัก และมีความสัมพันธ์กันในภาคแรก โดยดูเหมือนบทจะหมดไปตั้งแต่ภาคแรกแล้วแต่ด้วยความที่ตัวลครนี้เป็นที่ถูกอกถูกใจแฟนคลับ จึงทำให้มีบทในภาคต่อมาให้ชวนเอ๊ะกันอยู่ แถมจะใจร้ายปล่อยให้จบแบบไม่เล่าต่อแฟนคลับก็ไม่ไหวเลยเป็นที่มาของภาคนี้แหละ รีวิว หมอปลาวาฬ ไทบ้านเดอะซีรีส์

จ่าลอด หนุ่มชาวอีสานที่ไม่รุ้จักเรื่องความรักจึงให้เพื่อนเซียงสอนให้ จนกลายเป็นหนุ่มคาสโนว่า มีสาวไปทั่ว จนมาตกลงใจกับครูแก้ว จึงได้บอกเลิกผู้สาวทุกคน ให้ถูกต้อง ทำเอา หมอปลาวาฬ ก็งงกับเรื่องนี้และเจ็บปวดที่สุด ในเรื่องดูเหมือนลอดจะเป็นคนที่ไม่รู้จักโตที่สุดแล้วจึงเป็นที่มาของปัญหาหัวใจมากมาย

ครูแก้ว ครูสาวมาฝึกสอนที่โรงเรียนภาคอีสาน ได้เจอกับจ่าลอดจนสานสัมพันธ์กันได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตอนแรกเธอจะมีแฟนหนุ่มเป็นถึงตำรวจแต่ก็กลับมาเลือกจ่าลอดที่เติมเต็มความสุขของเธอได้ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เธอก็ดูเหมือนจะยอมได้หมดทั้งที่จ่าลอดก็ทำเธอเจ็บหลายครั้งอยู่

รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์

การดำเนินเรื่อง

ดูหนัง หมอปลาวาฬ ไทบ้านเดอะซีรีส์ หากย้อนกลับไปเปรียบกับหนังต้นทางอย่าง ‘ไทบ้าน เดอะซีรีส์’ ทั้งสามตอนที่ผ่านมา เราอาจบอกได้ว่า ‘หมอปลาวาฬ’ เป็นภาคที่รื่นรมย์น้อยที่สุด ตลกน้อยที่สุด และอยู่ในสภาวะกระอักกระอ่วนมากที่สุด 

จนหากพูดคร่าวๆ ข้ามๆ ก็อาจบอกได้ว่า หนังเปลี่ยนตัวเองจากหนังซิตคอมไทบ้านขายฮา มาเป็นเอ็มวีเพลงช้ำของ ตั๊กแตน ชลดา โดยยืดขยายที่มาที่ไปของความเจ็บปวดในการเป็นรักซ้อนออกไปมากกว่าแค่ผู้หญิงซื่อกับผู้ชายเลว และสำรวจจิตใจทุกคนในความสัมพันธ์

ในทางหนึ่ง การที่หนังป๊อปน้อยลงก็เป็นปัญหากับตัวหนังอย่างมาก แต่ในอีกทางหนึ่ง ก็ถือว่าหนังกล้าหาญมากๆ และมากพอที่จะละทิ้งขนบดั้งเดิมของตัวเอง (ที่ขายได้) ไปเพื่อจะได้ให้เราเห็นตัวละครแต่ละตัวเติบโตอย่างจริงจัง จนบอกได้ว่า คนทำหนังรักตัวละครชุดนี้มากๆ และความต่อเนื่องของมันทำให้เราเห็นชีวิตของไทบ้านที่เติบโตขึ้นบนหน้าจอ เปลี่ยนจากคนหนุ่มคะนองไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีรอยแผลบาดลึก ลบไม่ออก

หนังค่อยๆ ให้ตัวละครชายในเรื่องเจ็บปวดและเติบโตขึ้นไปทีละคน จาลอดจากเด็กชาย กลายเป็นคนหนุ่มเพราะเร่ิมจีบสาวเป็นจนถึงขนาดมีแฟนหลายคน, บักเซียงจากไอ้ขี้เหล้าเจ้าชู้ กลายเป็นพระเซียงและกลายเป็นเซียงคนหนุ่มที่สึกพระมาดูแลยาย 

เรียนรู้จากความตายของหญิงคนรัก, บักป่องที่หอบความฝันของชนชั้นกลางมาจากกรุงเทพฯ ทำได้บ้าง-เสียบ้าง (โดยมากเสีย) ล่มสลายกลายเป็นร่างล่องลอยใต้ถุนบ้านพ่อ, บักมืดที่อกหักเพราะรักหัวหน้าห้อง กลายเป็นคนหนุ่มเต็มตัวที่ดูจะมีสติรู้คิดกว่าพี่ชายหลายเท่า

รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์

ความรู้สึกรับชม

หมอปลาวาฬ ไทบ้านเดอะซีรีส์ เต็มเรื่อง ต้องยอมรับว่าภาคแยกของเรื่อง ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ สามารถทำให้คนชมเริ่มอินไปกับมุมดราม่าของ หมอปลาวาฬ และชีวิตของ หมอปลาวาฬ รวมถึงเหตุผลต่างๆ ที่ทำไมยังคงทำให้ไม่สามารถตัดขาดจากบักลอดได้ แต่ในเรื่องของความคอมเมดี้ในแบบฉบับของ ไทบ้าน นับว่ามีน้อยจริงๆ ในภาคนี้ อาจเพราะด้วยตัวเรื่องราวที่พยายามเน้นโฟกัสไปในมุมดราม่าของ หมอปลาวาฬ นั่นจึงทำให้ความคอมเมดี้อาจต้องลดทอนลงบ้าง

เอาจริง ๆ พล็อตเรื่องของ ‘หมอปลาวาฬ’ นี่แทบไม่มีอะไรเหลือให้เล่าอีกแล้ว แต่หากจะให้เปรียบเทียบกับหนังซูเปอร์ฮีีโรก็คงทับรอยเดียวกับ ‘Black Widow’ ของมาร์เวลนั่นแหละ คือเอาตัวละครที่คนดูรักแม้ว่าจะไม่ค่อยมีบทบาทเป็นชิ้นเป็นอันในหนังภาคต่อของ ‘ไทบ้านเดอะซีรีส์’ เท่าไหร่ และยังแนะนำตัวละครใหม่หรือเปล่า ? 

อย่างหมอเต้ยที่ได้อดีตครูเต้ย – อภิวัฒน์ บุญอเนกมาโชว์หน้าหล่อ ๆ อยู่ 1 ซีนถ้วนซึ่งเราก็คงเดาตอนจบได้ไม่ยากว่าหนังจะต้องเล่นงานกับชะตากรรมของหมอปลาวาฬอย่างหนักหน่วงก่อนเธอจะก้าวข้ามมะเร็งหัวใจอย่างจ่าลอดไปได้

กระนั้นในความไม่มีอะไรของพล็อตเรื่องมันก็ยังแอบมีจุดน่าสนใจหลายอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า สุรศักดิ์ ป้องศร มีความเข้าใจในเนื้อหาที่ตัวเองกำลังจะเล่าโดยเฉพาะการดึงให้อนามัยกลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน 

ซึ่งบทหนังก็ใช้ประโยชน์จากการที่แพทย์อาสาสมัครต้องติดตามคนไข้ผู้เฒ่าผู้แก่ให้มาคอยรับยารักษาโรคเป็นประจำสร้างภาพลักษณ์ของแพทย์ประจำท้องถิ่นที่ต้องต่อสู่กับความเชื่อของชาวบ้านเรื่องสุขภาพ

รีวิวหนัง หมอปลาวาฬ ไทบ้านเดอะซีรีส์ ฉากและโปรดักชั่น

กระนั้นความดีของนักแสดงหรือตัวบทที่ยังทำงานกับคนดูก็กลับมามัวหมองด้วยข้อผิดพลาดด้านโปรดักชันที่พบเจอได้รายทางตั้งแต่ซีนบทสนทนาที่คนดูได้ยินเสียงไมค์ไวร์เลสขูดกับเสื้อได้ชัดเจน เสียงพูดที่หลายครั้งก็ให้ความรู้สึกเหมือนบันทึกมาด้วยเกนเสียงที่พีคจนฟังแทบไม่รู้เรื่องจนถึงเสียงบางช่วงที่ติดไวร์เลสไม่ได้ก็เหมือนได้ยินจากไมค์กล้องจนคุณภาพเสียงกลายเป็นปัญหาที่บั่นทอนคุณภาพของงานไปอย่างไม่น่าเชื่อ ดูหนังเรื่อง หมอปลาวาฬ ไทบ้านเดอะซีรีส์ 

ด้านงานภาพแม้ว่าสไตล์นำเสนอที่เป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของหนังชุดนี้ทั้งการแทร็กกิ้งตามตัวละครเดินข้ามถนนไปมาหรือการถ่าย รับหน้าเพื่อสื่ออารมณ์โดยไม่ต้องมีคำพูดจะยังคงมีให้เห็นทั่วไปและทำงานได้ดีอยู่ แต่พอมีบางช็อตที่เห็นเลยว่าแก้ปัญหาแสงเปลี่ยนด้วยการใส่ฟิลเตอร์แสงส้มปลอม ๆ เข้ามาก็กลายเป็นรอยด่างพร้อยอันน่าเสียดาย

และคงไม่เป็นการสปอยล์ถ้าจะบอกว่าตอนท้ายเรื่องแอบมีหยอดฉากที่บักเซียงอีกหนึ่งตัวละครที่คนดูรักและเห็นใจกำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ ‘จักรวาลไทบ้าน สัปเหร่อ’ ที่คราวนี้จักรวาลไทบ้านจะมาในรูปแบบ หนังโรแมนติกสยองขวัญเมื่อบักเซียง (ชาติชาย ชินศรี) ยังคงตัดใจจากคนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไม่ได้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่หลายคนได้ดูต้องตั้งตารออย่างแน่นอน

ความรู้สึกหลังรับชม

ส่วนตัวหลังจากที่ดูจบแล้ว ต้องบอกเลยว่าหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ ก็ถือว่ายังคงเป็นอีกเรื่องราวของจักรวาล ไทบ้านเดอะซีรีส์ ที่เล่าเรื่องได้ดี และเด่นสุดๆ กับการหยิบประเด็นบางอย่างจากภาคแรก มาขยี้ในภาคนี้ ได้อย่างถึงเครื่องสุดๆ ดังนั้น หากใครชอบจักรวาลหนังไทยเรื่องนี้ และยิ่งเป็นแฟนๆ คุณหมอปลาวาฬ ด้วยแล้วล่ะก็ ถือว่าไม่ควรพลาดสุดๆ รีวิวหนัง ไทบ้านเดอะซีรีส์ หมอปลาวาฬ

เป็นหนังที่ถ้าใครยังไม่ได้ดูภาคแรกจะไม่อินมากเท่ากับคนที่ได้ดูภาคแรกมาก่อน ได้รับรู้ว่าจ่าลอดทำอะไรไว้กับ หมอปลาวาฬ บ้าง แถมผ่านไปสี่ปียังใจโลเลมายุ่งอะไรกับหมอปลาวาฬอีกถึงจะมาเพื่อเป็นเพื่อนก็เถอะ แต่คนที่เคยเป็นแฟนเก่ากันจะมาเป็นเพื่อนกันได้เนี่ยมันออกจะแปลกอยู่โดยเฉพาะคนที่ยังไม่ตัดความรู้สึกออกไปจากใจ หนังเริ่มเรื่องมาโดยย้อนไปตอนที่จ่าลอดเจอหมอปลาวาฬครั้งแรก 

เป็นครั้งแรกที่หมอปลาวาฬรู้สึกชอบจ่าลอดและทำให้เป็นสาเหตุที่เธอตัดใจไม่ได้สักที ในเรื่องจ่าลอดต้องการจะกลับมาเป็นเพื่อนกับหมอปลาวาฬอีกครั้ง แถมครูแก้วก็มีงานพาเด็กไปแข่งกีฬาหลายวันจึงเหมือนเป็นโอกาสให้จ่าลอดได้ทำอะไรที่มันไม่ควร ตอนดูคือแบบกำหมัดมากทำงี้ได้ไง เหมือนมาขุดแผลเก่ามากกว่า 

แต่เรื่องราวก็ซ้ำตอกย้ำให้หมอปลาวาฬได้เข้าใจว่าความจริงมันคืออะไร และควรเลือกอะไร ดีใจที่หมอคิดได้ และในตอนจบนั้นก็มีฉากที่คาดไม่ถึงอยู่เหมือนกันแต่ถือเป็นเรื่องราวที่ดี แม้ว่าจ่าลอดจะยังคงทำตัวเป็นเด็กไม่ยอมโตเอาแต่ใจแท้ แต่ก็ส่งเรื่องให้หมอปลาวาฬได้มีทางเดินไปได้จากลูปนี้ซักทีก็ถือว่าดีแล้วแหละนะ

จะบอกว่างานภาพสวยมาก แสง โทนสี ทำให้รู้สึกดีกว่าภาคก่อน ๆ เยอะเลย กล้องเขาชัดมาก ความเป็นกลิ่นอายไทบ้านยังคงมีอยู่ ถ้าคุณเป็นแฟนคลับหมอปลาวาฬบอกเลยว่าเรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวัง แต่ถ้าใครมาดูแบบไม่ได้ติ่งใคร ก็อาจมีงงได้บ้างว่า ทำไมตัวละครถึงทำไรแบบนี้ได้หรอ ? 

และคงไม่เป็นการสปอยล์ถ้าจะบอกว่าตอนท้ายเรื่อง แอบมีหยอดฉากที่บักเซียงอีกหนึ่งตัวละครที่คนดูรักและเห็นใจกำลังจะกลับมาอีกครั้งกับ ‘จักรวาลไทบ้าน สัปเหร่อ’ ที่คราวนี้จักรวาลไทบ้านจะมาในรูปแบบหนังโรแมนติกสยองขวัญเมื่อบักเซียง (ชาติชาย ชินศรี) ยังคงตัดใจจากคนรักที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับไม่ได้ น่าจะเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่หลายคนได้ดูต้องตั้งตารออย่างแน่นอนค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *