รีวิวหนังไทยnetflix PARADOX เดือด ซัด ดิบ
นับเป็นภาพยนตร์จากฮ่องกงสายบู๊อีกหนึ่งเรื่องที่คิดว่าหลายๆคนไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง PARADOX เดือด ซัด ดิบ เนื่องจากได้นักแสดงไทยคิวบู๊ชื่อดังไปสมทบ แต่เดี๋ยวก่อน! เราอยากให้เพื่อนๆเดากันว่าเป็นใคร? แต่ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงเดากันไม่ยากหรอกครับ หลายๆคนจะต้องคิดว่าเป็นพี่ จา พนม ซึ่งพวกคุณคิดถูกแล้วครับ สิ่งนี้นับเป็นเรื่องที่ดีมาก เชื่อว่าหลายๆคนคงคิดไว้ว่าพี่เขาคงไม่ได้มาโผล่บนจอภาพยนตร์อีกแล้ว เรียกได้ว่าแฟนๆพี่จาพนมก็คงจะฟินกันถ้วนหน้า สามารถรับชมหนังได้ทาง หนังไทยnetflix หรือ ดูหนังออนไลน์
รีวิวหนังไทยnetflix PARADOX เดือด ซัด ดิบ ภาพยนตร์จากฮ่องกง
เป็น หนัง ประเทศฮ่องกง อีกประเด็น ที่ชูกองจัดเต็ม มาถ่ายทําในบ้าน พวกเรา มีหลายฉาก หลายซีนที่เล่าราว ใน ประเทศไทย ในอีกด้านที่คุณ ไม่ทราบ ทั้งยังความร้ายแรง อาชญบาป รวมทั้งการพิสูจน์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ แบบดุเด็ดเผ็ดมัน
รวมทั้งการแสดง ภาพยนตร์เรื่อง ปัจจุบันของ “โทนี่ จา” หรือ “จา พนม ทัชชกร ยีรัมย์” ผู้แสดง ขาบู๊ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้สตั๊นท์ แถม ดูแลคิวบู๊โดย หงจินเป่า หนึ่งในสาม ศิลปิน บู๊คิวทองค่า สมัย 80 (เฉินหลง หง จินเป่า หยวนเปียว)กับหนัง แฟรนไชส์ SPLภาค 3 ที่ชื่อว่า “Paradox”
เรื่องย่อ/เนื้อเรื่อง
Paradox เกิดเรื่องราวของ ลีซุง ตํารวจ พ่อม่ายที่อุปการะบุตรสาว ฮัน ท้องนา กระทั่ง คุณ โตเป็นสาวสะพรั่ง อายุ 16 หลังจากนั้นก็กําเนิด ปัญหาด้านครอบครัวขึ้นทําให้ ฮัน ทุ่งนา หลบ แผลใจมาหาเพื่อนพ้องของ คุณ ที่พัทยา จนกว่าจู่ๆฮั่นท้องนา ก็ล่องหนไปอย่างลึกลับ ทําให้ ลีซุง จําต้องรีบ บินด่วนมาตามหา บุตรสาวของเขา
ซึ่งตรง นี้ทําให้เขาได้ผสานกับ ‘คิท’ สายลับ คนจีน (อู๋เยี่ย) รวมทั้ง ได้รับการช่วยเหลือเกื้อกูลจากกลุ่มตํารวจเขตแดน พัทยาอย่าง บาน (หลอฮฺชูวง) รวมทั้ง ทักษ์ (โทนี จา) รวมทั้ง ปรากฏว่า พวกเขาเจอ ร่องรอยสําคัญที่บุตรสาวของเขาอาจมีส่วนพันพัวกับวิธีการค้ามนุษย์ของมาเฟีย คนอเมริกัน (ไรอัน คอลลินส์)
สําหรับหนังหัวข้อนี้ นอกเหนือจาก ‘โทนี จา ที่มาแสดงตัว ในฐานะดาราหนังรับเชิญพิเศษแล้ว
ยังมีนักแสดง คน ประเทศไทยอีก 2 ท่าน หมายถึง นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และก็ วิทยา ปานศรีสวย มาร่วมสร้าง บรรยากาศ หนัง ให้มีกลิ่นไทยๆด้วย โดยหนังหัวข้อนี้ถ่ายทํา ดูเหมือนจะทั้งหมด ในประเทศไทย รวมทั้งจะว่าไปงานควบคุมของวิลสัน ยิป ในคราวนี้ พลอตเรื่องแทบจะไม่ต่างอะไรอะไรก็แล้วแต่จาก SPL 2 ภาค ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาเลย
ความประทับใจในเรื่อง
จุดที่ทําให้หนัง แฟรนไชส์ SPL มาถึงจุดที่ทําภาคต่อได้เป็น “รายละเอียด ของหนัง” โดยใน 2 ภาคแรก เล่น เรื่องราว ของ ความเคร่งเครียด แรงกดดัน ทั้งยัง จากการตามหาหนอนบ่อนไส้ของหน่วยงานตํารวจ กรุ๊ป มาเฟีย ธุรกิจ มึด ที่โคตรน่าสยอง
รวมทั้งมีเพาเวอร์อย่างเห็นได้ชัด และก็ภาคนี้ เป็นภาคที่ “ดาร์ค แล้วก็มืดมนที่สุดใน บรรดาอีกทั้ง 3 ภาค”
การเล่าเรื่องจะจุดโฟกัสไปที่การตามหา บุตรสาวของ หลี่ ที่เบาๆ ตั้งประเด็นว่า ลูก หายไป : ได้อย่างไร มาไทยเพราะเหตุไร รวมทั้ง ตัว ของ หลี่ ที่แสดง โดย กู่เทียนเล่อ หันมาสลัดมาด ผู้แสดงนําชาย อารมณ์เบิกบาน มาเล่นดราม่าเครียด โลก ทําเป็นดุเดือดมากมาย ยิ่งได้ตามติดกับ “ผู้กอง” ที่รับบทบาท โดย อู๋เยี่ย
ยิ่งทําให้สองคนนี้เคมีตรงกัน เล่นแล้วเชื่อสนิทว่าสองคนนี้เป็นตํารวจ แล้วก็ทั้งคู่ก็เป็นคุณบิดา ที่จํา ต้องเดินบนทางแยก ของจริยธรรม หน้าที่ รวมทั้งความรับผิดชอบ ได้ถึงแก่นมากมาย ตัวหนัง
แม้ว่าจะสามารถ ทายใจเส้นเรื่อง ได้ แม้กระนั้น พวกเราก็ทําใจไม่ได้กับจุดหมายปลายทางของหนังที่ขยี้ แล้วก็กดดันอารมณ์มาตลอดทั้ง เรื่อง
ความรู้สึกหลังรับชม
โดย พล็อตน่ะเข้ม ครับผม แม้กระนั้นผมก็รู้สึกอย่างเดิม โน่นเป็นการดําเนินเรื่องมันยัง ไม่กลมกล่อมละมุนละไม การมัดเรื่องเล่า มันยังไม่เป็นเนื้อเดียว บางช่วงราวกับอารมณ์ กระโดด จนถึงมีผล ไม่ตลอดทางอารมณ์ อยู่ พอ เหมาะพอควร
เว้นแต่ พล็อต ของ บิดา ที่ตามหาลูกแล้ว ก็มีพล็อตของตํารวจไทย โดยคนหนึ่ง แสดง โดยอู๋เยี่ย ส่วนอีกคนแสดง โดย พี่จา พนม
ซึ่งในหัวข้อนี้พี่จามาในแนวรับ เชื้อเชิญ ครับผม แต่ว่าเพียงพอถึงเวลาบู๊ก็ทํา เป็นดีอย่างเดิม รวมทั้งจะว่าไปแล้ว บทของพี่จาสามารถเพิ่มดีกรีความเข้มให้กับเรื่องราว ได้อย่างยอดเยี่ยม เส้นเรื่องของ หนัง หัวข้อนี้ก็ยังคงความเป็นหนัง ประเทศฮ่องกง เดิมๆที่ไล่ล่า ตัวหนอนบ่อนไส้ในคราบเปื้อนของ ผู้รักษาความเป็นธรรม นั่นแหละ
แม้กระนั้นตัวหนังมิได้เน้นย้ํา ที่บทหนังเท่าใด ใช้เวลาไปกับการปูเรื่องรวบรัด ตัดตอน ไม่แคร์เวิลด์ แล้วเล่าแบบตัดสลับไปๆมาๆ ระหว่างสถานะการณ์ที่ไทย และก็ประเทศฮ่องกง ให้มันมองมี ลูกเล่นขึ้น แม้กระนั้น ผมว่ากลับ
ทําให้หนังปูเรื่อง ได้อึดอัดกว่าเดิม แล้วก็เอาจริงเอาจังๆ ไม่ต้องคาดหมายอะไร เลย กับการดําเนินเรื่อง ใน ตอนครึ่งแรก แถม บทสําหรับพูด ของ ดารา ไทย กับ ประเทศฮ่องกงเวลาแสดงกัน ดัน ออกมาเป็นสองภาษา ภาษาบ้านคนใดบ้านมัน แต่ว่าคุยกันเข้าใจ มันเลย ฟังดูแล้วทะแม่งๆ
รีวิวหนังไทยnetflix PARADOX เดือด ซัด ดิบ หนังต่างประเทศที่ได้นักแสดงไทยมาสมทบมากมาย
สิ่งที่พิเศษสุดๆ ใน หนังหัวข้อนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง ดารา คนประเทศไทยที่สมทบในหนัง ความคิดเห็นต่อจา พนม พูดว่าเป็นบทที่ให้ได้แสดงมากมายกว่าที่ผ่านๆมา
รวมทั้งมีบทสําหรับพูดมากกว่า หลายๆเรื่อง ส่วนคุณนุ่น ศรี พันธ์ก็มีบทที่เด่น หากแม้บทจะน้อยหนัง เล่าราว ของ นาย ตํารวจ ประเทศฮ่องกง เข้ามา ในประเทศ ไทยเพื่อเรียก ตัวบุตรสาว ที่ล่องหนไปอย่างลึกลับ
แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือเกื้อกูล จาก นาย ตํารวจเขตแดน คนประเทศไทย สําหรับในการตามหาตัว บุตรสาว คราวนี้ ซึ่งนํามาซึ่งการก่อให้เกิด การเจอกับ โครงข่ายค้าอวัยวะมนุษย์รายใหญ่ที่ มีมาเฟียใหญ่รอ สั่งการอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง วิลสัน ยิป จาก IP MAN
รวมทั้ง SPL: SHA PO LANG เป็นผู้ กํากับหนัง ประเด็นนี้ ดาราข้าง ประเทศฮ่องกง ดังเช่นว่า กู่เทียนเล่อ, หลอฮฺชูวง, หลินเจียต้ง, อู๋เยี่ย แล้วก็ คริส คอลลิน ส่วนดาราหนัง ฝั่งไทยยังมี วิทยา ปานศรีสวย ร่วมแสดงอีกหนึ่งคน นะครับ
สรุปหลังดูหนัง
สําหรับแฟนหนังของ จาก็จัดว่าได้มองเห็น จาวาดลวดลายแบบเข้าตาก็หลายฉากอยู่ แต่ว่าเสียดายที่มีบท น้อยไปนิด ซึ่งสําคัญๆ ไปหนัที่ กู่เทียนเล่อ และก็ อู๋เยี่ย นั่นแหละ
โดยเว้นแต่แอ็คชันแล้ว พาร์ท ดราม่า ของ Paradox ก็ทําเป็น น่ายกยอ โดยยิ่งไปกว่านั้น การทอดอารมณ์ ของคนเป็นบิดา ที่มีลูกสาว ผู้เดียว เป็นแก้วตา ดวงใจ หนัง นําพาผู้ชมไปถึงด้านมืดที่สุดของนักแสดง แล้วก็ทางแยก ของ การตัดสินใจ ที่สําคัญมากๆ
ในช่วง สุดท้าย ของ เรื่อง ที่ แม้ว่าจะทายใจ ไม่ยากมากเท่าไรนัก แต่ว่า ทําให้ผู้ชมอินรวมทั้งเข้าถึงจิตใจของนักแสดง ลี ชุง ได้อย่างดีเยี่ยม
โดยรวมแล้ว Paradox นับว่าเป็นงานแอ็คชัน ดราม่าอีกหัวข้อ ที่มีเสน่ห์เปี่ยมล้นแบบ หนัง ประเทศฮ่องกง และก็ถือได้ว่าเป็นการกลับมาเผยตัว บนหนังที่งามของผู้แสดงน่าชาย กู่เทียนเล่อ อย่างแท้จริง ดูหนังไทย