รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters

สวัสดีครับเพื่อน ๆ หากเราจะพูดถึงตำนานผีไทยในบ้านเราเชื่อว่าทุกคนต้องนึกถึง ผีปอบ ผีกระสือ ผีพรายต่าง ๆ เป็นอันดับแรกแน่ ๆ และในเรื่อง กระสือสยาม Sisters ก็ได้หยิบยกเรื่องราวของตำนานผีกระสือสยามมาผสมกับความแฟนตาซีบวกกับความทันสมัยออกมาในแนว สยองขวัญ แฟนตาซี แฟน ๆหนังผีไทยยุคเก่าคงจะไม่ชินแน่นอน แต่เชื่อว่าคนชอบหนังผีรักการดูหนังต้องชอบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามแต่ ก็ไม่ไช่ว่าจะออกทะเลมากมาย เพราะ หนังไทยnetflix เองก็ยังคงความเป็นไทยอยู่มาก แค่เพิ่มความแอ็คชั่น ความแฟนตาซีมากยิ่งขึ้นเท่านั่นเองครับ

รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters

รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters ตำนานสยองขวัญผสมแฟนตาซี ที่ไม่มีให้เห็นที่ไหน

กระสือเรื่องที่ 2 ของปี ซึ่งในเมื่อมันเป็นแบบนี้ก็ยากเหลือเกินที่การเขียนรีวิวจะไม่หยิบเรี่องก่อนหน้าอย่าง “แสงกระสือ” มาเปรียบในบางจุด เพราะไหน ๆ ก็มีจุดร่วม คือผีตนเดียวกัน ดังนั้นแล้วกับคำถามดาษดื่น ที่มักจะมีคนถามเป็นอันดับต้น ๆ ว่า “แล้วกระสือเรื่องไหนดีกว่ากัน?” ผมคงไม่อาจฟันธงได้เต็มปากนัก ในแง่ความสนุกที่แทบทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับ Taste ส่วนบุคคล หากทว่า ในด้านความสมบูรณ์ของภาพยนตร์นั้น “กระสือสยาม” ไม่อาจต่อกรกับกระสือเรื่องก่อนหน้าได้ในแทบจะทุก ๆ ด้านเลยทีเดียว

รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters

เป็นทั้งโชคร้ายและโชคดี ที่ กระสือสยาม ของ ปรัชญา ปิ่นแก้ว (ผู้กำกับ องค์บาก และ ต้มยำกุ้ง) มาเข้าฉายไล่ ๆ กับ แสงกระสือ ที่เพิ่งเข้าโรงไปเมื่อเดือนก่อนหน้า โดยในส่วนที่เราว่าโชคดีคือ แสงกระสือ ซึ่งทำไว้ดีมากสำหรับมาตรฐาน หนังไทย ช่วยให้คนไทย โดยเฉพาะคนยุคใหม่ เปิดใจกับการ ดูหนังออนไลน์ ไทยและความเชื่อเกี่ยวกับกระสือมากขึ้น และในส่วนที่เราว่าโชคไม่ดีก็คือ แสงกระสือ เค้าทำไว้ดีมากเกินมาตรฐาน หนังไทย จนทำให้หนังกระสือสยาม ถูกนำไปเปรียบเทียบแบบแทบไม่มีชิ้นดี

ตัวเปิดเรื่องด้วยฉากย้อนความที่กระชับ ดุดัน และทรงพลัง จนเรารู้สึกเลยว่าเส้นเรื่องช่วงนี้หากเอาไปแตกเป็นภาค Origin หรือภาค Prequel ก็ยังได้แถมน่าสนใจด้วย โดยมีเสียงของวีณา (โจ้) รับหน้าที่เล่าเนื้อเรื่องประกอบ จากนั้นก็เริ่มเปิดตัวตัวละครหลัก พร้อมวางเซ็ตติ้งกฎเกณฑ์และเงื่อนไข รวมถึงลูกเล่นต่าง ๆ ไว้รายรอบ เรียกว่าช่วง 20 นาทีแรกนี่แหละคือส่วนที่ดีที่สุดของการ ดูหนังไทย โดยแท้จริง

เรื่องย่อ กระสือสยาม Sisters

กระสือสยาม เรื่องย่อ มันเป็นเรื่องราวของสองพี่น้อง ที่ไม่ได้คลานตามกันมา แต่ว่าใกล้ชิดกันมาก วีณา (พลอยยุคล โรจนกตัญญู) ผู้พี่ กับ โมรา (นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล) ผู้น้อง ที่คนหนึ่งเกิดมาเพื่อเป็นผู้ล่าที่ต้องทำทุกอย่าง เพื่อดูแลน้องสาวผู้มีเชื้อกระสือในตัว อีกทั้งอายุของเธอก็ใกล้จะพร้อมเป็นกระสือเต็มตัว เข้ามาทุกที แล้วงานนี้วีณามิได้สู้เพียงลำพัง

รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters

หากยังมีสิงห์ (ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ) หมอยาผู้มีอาคม เขาคือพ่อของโมรา ผู้ที่มุ่งหวังจะลูกหายจากการเป็นกระสือ จึงได้ฝึกปรือให้หลานของตนมีวิชาระหว่าง ที่ร่างกายของโมรากำลังเปลี่ยนแปลง วีณาผู้ฝึกมาทั้งชีวิตเพื่อปกป้อง ในที่สุด สองสาวพี่น้องก็ต้องได้เจอกับนางพญาราตรี (รฐา โพธิ์งาม) ผู้มีความแค้นฝังลึกในอดีตที่กลับมาเพื่อแก้แค้นชะตากรรมของโมราจะเป็นเช่นไร การแก้แค้นของราตรีจะสำเร็จหรือไม่ การปกป้องของวีณาจะได้ผลสักแค่ไหน

ความรู้สึกหลังรับชมหนัง กระสือสยาม Sisters

ถ้าให้เราพยายามพูดแบบเป็นกลางหน่อย เราก็จะบอกว่า กระสือสยาม ซึ่งผลิตโดย BNK48 และจัดจำหน่ายโดย สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล เค้าตั้งใจทำให้แมสกว่า ตั้งแต่การตั้งชื่อเรื่องและการใช้โลเกชั่นให้รังกระสือหมกอยู่ในสยาม กะให้คนดูดูเอาบันเทิงทั่วไป คือมีฉากแอ็คชั่นและเวทมนตร์ไสยศาสตร์ต่อสู้กันระหว่างคนกับกระสือ ในขณะที่ แสงกระสือ เค้าจะเน้นไปทางความรักโรแมนติกและชีวิตจิตใจของกระสือ รวมถึงให้ความสำคัญกับงานศิลป์และความประณีต อีกทั้งมีการตีความใหม่ที่ลึกซึ้งจริงจังกว่า

รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters

ดังนั้น มันก็คนละสไตล์กันนั่นแหละ สุดท้ายก็แล้วแต่คน ว่าจะชอบกระสือแบบไหนมากกว่ากัน แต่สำหรับเราแล้ว กระสือสยาม ไม่ค่อยถูกจริตกับความชอบของเราสักเท่าไหร่ จะเรียกว่าไม่ชอบเสียเลยก็ว่าได้ ที่ชอบจริง ๆ เห็นจะมีแค่อย่างเดียว คือภาพสวย อ้อ… แล้วก็นักแสดงหน้าตาดี

ทำไมหนังเรื่องนี้ถึงไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร?

ก็ต้องขอยอมรับกันตามตรงเลยครับ ว่าเนื้อเรื่อง การดำเนินเรื่องต่าง ๆ ทำออกมาได้ไม่ค่อยดีจริง ๆ สำหรับบทหนัง กระสือสยาม ถือว่ามีช่องโหว่และความไม่สมเหตุสมผลมากมายเหลือเกิน ถ้าให้ลิสต์ทุกจุด ก็ไม่รู้ว่าจะลิสต์หมดเมื่อไหร่ หรือถ้าลิสต์มาแล้ว คนอื่นอาจจะหาว่าเราเยอะหรืออีช่างจับผิดหนังเอาได้

แต่เราขอพูด ณ ตอนนี้ ตรงนี้เลยว่า ไม่ได้มีเจตนาเข้าไปจับผิดหนังแต่ใดใด จริง ๆ แล้ว ตั้งใจก่อนเข้าโรงแล้วด้วยซ้ำว่าจะฝากสมองไว้ที่คนฉีกตั๋วหน้าโรง แล้วเข้าไปดูแบบไม่คิดอะไรมาก แต่สุดท้าย ถ้าบทมันแย่ ดูหนังจากดาวอังคาร ก็เห็นว่าบทมันแย่ (ส่วนที่ว่าบทไม่เมคเซนส์ ขออนุญาตไม่ลิสต์ละกัน เสียเวลามามากพอแล้ว แต่ใครจะลองไปดูเองก็ได้ แล้วจะเข้าใจว่าเราไม่ได้พูดเกินไป)

แต่ทว่าสิ่งที่น่าจะเป็นปัญหาอีกสองสามอย่างของ ‘SisterS’ ก็คือ ความไม่สมจริงของเรื่องราว การไล่ล่าที่ชวนคนดูให้ลุ้นหนักแต่เรื่องราวกลับเกิดขึ้นเหมือนตัวละครที่ลุ้นกันเอง คนรอบข้างเหมือนจะไม่จำเป็นกับเรื่องราว อีกส่วนก็คงเป็นฉากการต่อสู้ที่ไม่ได้น่าตื่นตาเท่าที่คาดหวัง กับ CG ที่ค่อนข้างดีในฉากถอดหัวแต่ไม่เวิร์กในฉากแอคชั่น กับเรื่องราวที่ปูมาตอนต้นดูน่าสนใจไป แต่พอเรื่องดำเนินไปกลับชวนตะขิดตะขวงไปตลอดทาง แม้แต่ตอนจบก็ยังชวนกังขา

รีวิวหนังไทยnetflix กระสือสยาม Sisters ตำนานสยอง ผีไทยในตำนาน

ความไม่สมเหตุสมผลก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราไม่ค่อยอินกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลาย ๆ อย่าง แต่หากมองข้ามไปแล้วถือเสียว่าดูเอาเพลิน ๆ เปิดรับสิ่งใหม่ก็ถือว่าไม่เลวเลย แม้หลาย ๆ สิ่ง หลาย ๆ อย่างอาจจะไม่ถูกใจไปบ้าง แต่ในส่วนของนักแสดงถือว่าทำได้ดีทีเดียว ทั้ง โจ้ พลอยยุคล ที่คงคาแรคเตอร์เด็กรุ่นใหม่เข้ากับสมัยปัจจุบันได้ดี อาจจะติตรงที่เสียงพูดตอนบรรยายเรื่องราวที่ไม่ค่อยสมูท ส่วน มิวนิค นันท์นภัส ก็ยังคงรักษาคุณภาพทางการแสดงได้ดี ไม่เสียชื่อที่เข้าวงการการแสดงมาตั้งแต่เด็ก ดูแล้วชุ่มชื่นหัวใจ ส่วนรุ่นพี่อย่าง หญิง รฐา และ ต๊อก ศุภกรณ์ นั้นหายห่วงอยู่แล้ว

ส่วนในเรื่องเทคนิคพิเศษ CG ต่าง ๆ ถือว่ายังทำได้ไม่ค่อยดีเท่าที่หวังไว้ ฉากกระสือลากไส้นี่ภาพลอยมาก แต่ก็ชอบตรงที่ดีไซน์กระสือออกมาได้น่าเกลียดดี ดูที่เป็นเส้น ๆ ชัด ๆ มีความเหมือนไส้เดือนพอจะกำจัดศัตรูก็สามารถแผ่ตรงปลายคล้ายเอเลี่ยนไปอีก บอกเลยว่าสยองจริง ๆ ท้ายที่สุดแล้วจะชอบหรือไม่ชอบก็ลองไตร่ตรองกันดู

บทสรุปของเรื่องราวใน กระสือสยาม Sisters

โดยสรุป นี่คือหนังที่เราไม่ได้ตั้งความหวังไว้มากมายเลย แอบเชียร์ว่าขอแค่ดูสนุกก็เพียงพอให้คะแนนเกินครึ่งในใจแล้ว แต่กระนั้นผู้สร้างก็ยังเหยียบย่ำความรู้สึกเราแบบไม่มีชิ้นดี พูดตรง ๆ ว่าเสียดายครับกับความกล้าคิดพลอตใหม่ ๆ และยังเป็นโอกาสของนักแสดงรุ่นใหม่หลาย ๆ คนที่ยอมทุ่มเทตัวเองเพื่อหนังขนาดนี้

ลึกๆเชื่อว่าหนังเรื่องนี้คงจะผ่านปัจจัยอะไรร้อยแปดมาเยอะมากที่ทีมงานเองก็คงไม่ได้พอใจ จนหนังผิดเพี้ยนมากขนาดนี้ (เพราะถ้าพวกพี่ดูหนังเรื่องนี้ของตัวเองแล้วพอใจ รสนิยมทำหนังพี่ไม่โอเคและพี่ควรหยุดได้แล้ว) ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทีมงานนักแสดงทุกคนในหนัง สู้และก้าวผ่านมันไปให้ได้ครับ ยังอยากเชียร์หนังไทยไปเรื่อย ๆ ครับ น้องมิวนิคและโจโจ้ยังมีอนาคตอีกมากจริง ๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *