รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย

 

 

รีวิวหนังไทย ห้าแพร่ง (อังกฤษ: Phobia 2) เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ โดยมีโครงเรื่องเกี่ยวกับผีและความกลัวเช่นเดียวกับ สี่แพร่ง แต่จะถ่ายทอดผ่านภาพยนตร์สั้น 5 เรื่อง เข้าฉายเมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552 และมีการจัดฉายรอบสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ณ โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิลด์ ซีเนมา ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมีการถ่ายทอดสดบรรยากาศงานผ่านเว็บไซต์ทางการของภาพยนตร์ นับเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศการจัดฉายรอบสื่อมวลชนทางอินเทอร์เน็ต เป็นหนังสยองขวัญ ที่ทำสถิติรายได้เปิดตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของวงการหนังไทย ภาพยนตร์เรื่อง ห้าแพร่ง ทำรายได้จากการเข้าฉายในประเทศไทยจำนวน 113.5 ล้านบาท 5 แพร่ง Netflix

 

เรื่องย่อ 5 แพร่ง ตอนที่ 1

หลาวชะโอน

รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย หลาวชะโอน เป็นชื่อของต้นไม้ตระกูลปาล์มที่มีรูปร่างสูงเรียว โดยในเรื่องนี้ได้ใช้เสาในการ “ตั้งเปรต” ในประเพณีสารทเดือนสิบ เป็นพิธีทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษและภูติผีต่าง ๆ โดยจัดอาหารคาวหวานไว้ที่บริเวณวัด เรียกว่า “ตั้งเปรต” ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นพิธี “การชิงเปรต” ที่เป็นขั้นตอนการอุทิศส่วนกุศลแก่เปรต โดยลูกหลานจะแย่งอาหารมากิน ซึ่งของที่แย่งมาได้ถือเป็นของเดนชาน การได้กินเดนชานจากวิญญาณบรรพบุรุษ เป็นการแสดงความรัก และสิริมงคล เป็นกุศลแก่ลูกหลาน 5 แพร่ง เรื่องย่อ

 

รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย

 

แนวคิดของตอน หลาวชะโอน มาจากความต้องการทำหนังผีที่หลากหลาย ให้ดูเป็นทางการ์ตูนจัด ๆ มีแนวทางในการเล่าเรื่องเยอะ ๆ มีการสร้างภาพเทคนิคพิเศษเข้ามาเกี่ยวข้อง และทดลองทำหนังผีที่เป็นแนวดราม่า การคัดเลือกนักแสดง สาเหตุที่เลือกน้องเก้าเพราะ เห็นว่ามีแววตาที่ดื้อ แต่มีความอ่อนแออยู่ในแววตา โดยคัดจากนักแสดง 200 กว่าคน

ทำเลถ่ายทำตอนนี้คือ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี และยังถ่ายทำในวัดกลางป่าที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งห่างจากถนนกว่า 3 กิโลเมตร ต้องเดินเลาะห้วยบึงเข้าไปถ่ายทำ ฉากในเรื่องของการหลอกผี ต้องการให้เหมือนในหนังผีโบราณ ที่จะดูไม่ตัดต่อเยอะ แทบจะไม่มีคัตเลย โดยนักแสดงไม่เห็นตัวผีต้องจินตนาการว่ามีผี แล้วจึงมาใส่ซีจีภายหลัง ตอนหลาวชะโอน ใช้เวลาถ่ายทำราว 7-8 วัน ดูหนังออนไลน์,ดูหนังฟรี

 

รีวิว 5 แพร่ง ตอนที่ 2-3

5 แพร่ง ห้องเตียงรวม

ตอน “ห้องเตียงรวม” มีผู้กำกับคือ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เป็นผลงานการกำกับการแสดงครั้งแรกเมื่ออายุ 50 กว่าๆ ด้วยเหตุผลที่ว่า ยงยุทธ ทองกองทุนประสบอุบัติเหตุ ทางคุณจิระ มะลิกุลและผู้กำกับจีทีเอชจึงขอร้องให้มากำกับสักเรื่อง โดยในวันถ่ายทำ คุณจิระมาช่วยถ่ายกล้อง 2 และได้ ย้ง ทรงยศ ถ่ายภาพนิ่ง และเอส คมกฤษ มาช่วยเป็นแอ็กติงโค้ชให้นักแสดง ตอน “ห้องเตียงรวม” มีอยู่ 141 ช็อต ใช้เวลาถ่ายทำ 2-3 วัน ถ่ายตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงตี 2

 

รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย

 

Backpacker

แนวคิดของตอนนี้ จากบทสัมภาษณ์ ทรงยศกล่าวว่าชอบดูหนังแนวทริลเลอร์ จึงต้องการเน้นให้มีเนื้อเรื่องมีทิศทางไปทางทริลเลอร์ เดิมที ย้ง ทรงยศ ตอนเขียนเรื่องนี้มายังไม่ได้มองว่าใครจะเล่น โดยเริ่มมองดาราในค่ายก่อน และเห็นว่าคนอื่นดูผู้ดี คุณหนู ไฮโซ กันหมด เหลือเพียงคนเดียวที่พอเป็นเด็กท้ายรถได้คือ แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ และถือเป็นบทบาทที่แน็กยังไม่เคย เล่น ส่วนใหญ่ในเรื่องนี้จะใช้การสื่อสารทางอารมณ์มาก กว่าบทสนทนา สาเหตุการเลือกแบ็กแพ็กเกอร์เป็นคนญี่ปุ่น เดิมทรงยศคิดว่าถ้าเป็นฝรั่งจะเห็นชัดเจนกว่า แต่ต้องการให้ภาพรวมเป็นเอเชียทั้งหมด จึงลงมาที่ประเทศญี่ปุ่นที่เขาเจริญกว่าเรา ตอน Backpacker ใช้เวลาถ่ายทำ 7 วัน

 

5 แพร่ง ตอนที่ 4-5

รถมือสอง

การคัดเลือกนักแสดง ที่เลือกนิโคล เพราะมีความเป็นแม่จริง ๆ และผู้กำกับโอ๋ ภาคภูมิ วงศ์ภูมิ เคยเห็นนิโคลเล่น คืนไร้เงา ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเพราะบทที่เล่นในเรื่องนั้นดูเรียบ ๆ นิ่ง ๆ แต่เมื่อเล่าเรื่องเสร็จให้นิโคลฟัง ก็น้ำตาคลอเนื่องจากคิดถึงลูกตัวเอง และคิดว่าน่าจะเล่นในอินเนอร์ในหนังได้ และลองให้เล่นดูในบทสุดท้ายที่เป็นฉากที่ยากมากที่ต้องร้องไห้ ก็เลือกรับทันที เต๊นท์ที่ถ่ายทำ ถ่ายที่กาญจนาภิเษก และรถพัง ๆ กว่า 50 คันในเรื่องก็ได้มาจากสถานีตำรวจที่ชนคนตาย ที่จอดทิ้งไว้ แต่หมอประจำสถานีตำรวจก็ทำพิธีให้ สำหรับฉากผีติดล้อ มีที่มาจากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ที่เด็กโดนรถกระบะทับ

 

รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย

 

คนกอง

จากกระแสตอบรับที่ดีของตอน “คนกลาง” ใน สี่แพร่ง แฟน ๆ อยากให้ทั้ง 4 คนกลับมาร่วมแสดงกันอีก จึงได้คิดเนื้อเรื่องใหม่ขึ้นมา โดยตัวละคร 4 คนไม่เกี่ยวข้องกับตัวละครใน “คนกลาง” (ไม่ใช่ภาคต่อหรือภาคก่อน)[16] แต่นิสัยเหมือนเดิม ส่วนฉากกับชุด มีเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับเรื่อง แฝด คือเป็นเรื่อง แฝด ภาค 2 ที่มีฉากหลังและชุดของมาช่าในเรื่อง แฝด โดยผู้เขียนจับทางในเรื่องกระแสตอบรับที่ดีได้ในเรื่องการเสียดสีล้อเลียนให้เพิ่มมากขึ้น เหมือนล้อเลียนในแง่การทำหนังผี เหมือนเป็นการอำตัวเอง อำการทำหนัง อำการคิดหนัง

 

ที่มาของโครงการ 

รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย หลังจากที่ สี่แพร่ง ประสบความสำเร็จ เป็นที่รู้จัก ทำให้ทางทีมงานคิดว่าน่าจะทำเป็นแฟรนไชส์ (ภาคต่อ) ที่แข็งแรงได้ และได้ทำการประชุมกันโดยที่ผู้กำกับเดิมใน สี่แพร่ง ก็ยังมีเรื่องอยู่ ที่สนุกและคิดว่าน่าจะตอบโจทย์ในแง่ความแปลกใหม่ได้ ส่วนจาก 4 แพร่ง เพิ่มเป็น 5 แพร่ง HD เพราะชื่อว่าปีนี้ (2552) เลข 5 มาแรง

 

 

โดยเริ่มจากผู้กำกับ 3 คนคือ บรรจง, ปวีณ, ทรงยศ และภาคภูมิกับวิสูตร ตามมาทีหลัง เริ่มประชุมกันทั้งวันทั้งคืนอยู่หลายวัน เรื่องแนวของหนัง สิ่งที่เป็นสาระที่ไม่เคยมีในหนังผีในโลกนี้มาก่อน นำเรื่องมาเสนอ 20-30 เรื่อง ขึ้นบนกระดาษแล้วนำมาต่อเนื่อง ช่วยกันคิดกัน แชร์แลกเปลี่ยนกัน โดยเรื่องที่เลือกมาเพราะเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เป็นจุดสนใจของสังคม ณ ปัจจุบัน แล้วลองทำในมุมมองใหม่ ให้แตกต่าง

 

รีวิว 5 แพร่ง หนังผีไทย

ล่าสุดได้ข่าวมาว่าหนังทำรายได้วันแรกทุบสถิติหนังผีทุกเรื่องไม่เว้นแม้แต่นางนากได้สำเร็จหนังทำเงินแน่ๆแต่ทำได้เท่าไหร่และจะทุบสถิติภาคแรกได้ไหมคงต้องรอดูผลกันอีกในสุดสัปดาห์นี้ก็ทราบและพยากรณ์กันได้แล้วครับ
ไปชมกันครับ สนุกและมีดีอย่างที่บอกครับ

บทเรียนสอนใจได้ดี มีมุมสะเทือนใจอย่างหาที่เปรียบมิได้ทีเดียว

โต้ง-บรรจง ปิสัญธนะกูล สร้างความประทับใจ “คนกลาง” ในภาคก่อนด้วยความน่ากลัวบวกความฮา มาในภาคนี้ก็ไม่ทำให้คนดูต้องผิดหวังอย่างเคย เพียงแต่สิ่งที่อาจจะทำได้ไม่เท่า “คนกลาง” ก็คงจะเป็นที่ “คนกอง” ดูจะไม่น่าสะพรึงกลัวสักเท่าไหร่ หากเน้นไปที่ความฮาเสียมากกว่า สังเกตได้จากเสียงหัวเราะลั่นโรงเมื่อได้ทีมนักแสดงกลุ่มเดิมที่มากันอย่างครบถ้วน พร้อมตัวชูโรงตัวใหม่ กับการล้อเลียนหนังผีอีกหน

 

 

โดยเฉพาะ “แฝด” ที่ มาช่า วัฒนพานิช คนเดิมเคยฝากความทรงจำเอาไว้ เรื่องราวในฉากหนึ่งของการถ่ายทำหนังผี ที่น้องคนนั้นที่เล่นเป็นผีเธอเกิดตายระหว่างถ่าย แต่ห่วงว่างานแสดงครั้งแรกของเธอจะไม่ลุล่วง จึงกลับมาป่วนกองถ่ายอีกครั้ง แพร่งนี้ คุณจะได้พบกับมาช่าในมุมที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็นที่ไหน
ความเห็นนี้ อาจจะไม่ตรงกับบางคนได้ อย่าว่ากันเลยนะ

ฉากที่ดูร้ายแรงที่สุด คงเป็นตอนจบของมัน ที่บ่งบอกอะไรบางอย่างได้ดี

ผมยอมรับว่า ประทับใจกับหลายแพร่งในระดับที่ใกล้เคียงกัน แต่แพร่งที่ดูจะได้ใจจากผมไปน้อยที่สุด ก็เห็นจะเป็น “ห้องเตียงรวม” ของผู้กำกับ วิสูตร พูลวรลักษณ์ ที่เลือก แดน วรเวช ดานุวงศ์ มารับบทหนังส่วนใหญ่เอาไว้เกือบจะคนเดียว กับเรื่องราวของ ตี้ ที่ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล เขาเรียกร้องห้องเดี่ยวแต่กลับต้องมาอยู่ร่วมห้องกับชายแก่ที่รอวันถอดเครื่องช่วยหายใจ การดำเนินเรื่องทำได้ดีในการสร้างความน่ากลัว แต่กลับสอบตกเรื่องการอธิบายที่มาที่ไป และไม่ชัดเจนในสิ่งที่ต้องการสื่อเป็นการพลิกบทบาทครั้งสำคัญของมาช่าจริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *