รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์

หนังออนไลน์ล่าสุด

รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์ หลังจาก วิน (หมาก ปริญ สุภารัตน์) ต้องเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่หลวง รีวิวหนังไทย เขาจึงหันหน้าเข้าหาศาตร์อาคมเหนือธรรมชาติเพื่อหวังล้างแค้นให้กับครอบครัว หนังใหม่ แต่ยิ่งเข้าสืบหาความยิ่ง ยิ่งเรียนรู้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งถลำลึกจนแทบจะหาทางออกไม่เจอ ดูหนัง จากเด็กหนุ่มธรรมดากลายเป็นผู้มีวิชาอาคมด้านมืดภายในเวลาอันรวดเร็ว จนวันหนึ่งเขาได้เข้าไปพัวพันกับ อิทธิ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) จอมขมังเวทย์ในตำนานที่มีวิชากล้าแกร่งและปราบศัตรูมานักต่อนัก หลังจากนั้นวินก็ต้องเผชิญหน้ากับ ก็อด (จิรายุ ตันตระกูล) ดูหนังออนไลน์ ชายหนุ่มที่พัวพันกับศาสตร์มืดจนสามารถกำหนดชะตาชีวิตของผู้คนได้และตามกำจัดเหล่าผู้มีวิชาอาคม ศึกครั้งนี้ไม่มีปาฏิหาริย์แต่ต้องพึ่งวิชาอาคมล้วน ๆ เพื่อความอยู่รอด ดูหนังฟรี

หนังแอ็กชั่นแฟนตาซีที่จะปลุกศาสตร์มืดให้กลับมาโลดแล่นในยุคเทคโนโลยีอีกครั้ง จอมขมังเวทย์ 2020 เป็นภาคต่อของหนังเรื่องจอมขมังเวทย์ ที่ฉายในปี 2548 และได้นักแสดงนำในสมัยนั้นกลับมาสาดมนต์คาถาอีกครั้ง บอกเลยว่าเรื่องนี้ถูกใจคนที่ชื่นชอบหนังแอ็กชั่นปนสิ่งลี้ลับแน่นอนค่ะ ทั้งภาพ แสง สี หรือฉากบู๊มีการจัดวางอย่างลงตัว เนื้อเรื่องเข้มข้นและดาร์กสุด ๆ ทั้งคาถาอาคมและสัตว์เวทในตำนานที่ออกมาโลดแล่นอย่างสมจริง และมีการออกแบบลายสักสุดขลังจากอาจารย์หนู กันภัยอีกด้วย ดูหนัง

หลังพ่อถูกฆ่าตาย วิน (ปริญ สุภารัตน์) ไอ้หนุ่มนักมวยสุมไฟแค้นออกตามล่าตัวฆาตกร จนได้พบกับองค์กรพลังจักรวาลที่นำโดย ครูเมย์ (สินจัย เปล่งพานิช) ดูหนัง ไลฟ์โค้ชสาวใหญ่ผู้มีเบื้องหลังเป็นผู้ค้าวัตถุไสยเวทย์ และ ก็อต (จิรายุ ตันตระกูล) มือขวาครูเมย์ที่ช่วยตามล่าสินค้า โดยทั้งคู่ได้ตกเป็นเป้าหมายสำคัญของ วิน ที่หวังออกตามล่าฆาตกรที่ฆ่าพ่อเขาเพียงเพื่อชิงเหล็กไหลวัตถุมงคลมากพุทธคุณ ดูหนังออนไลน์

รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์

รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์

และสงครามอาคมครั้งนี้ได้นำ หมวดการ์ตูน (ชิชา อมาตยกุล) มือปราบสาวไฟแรงที่ต้องมาต่อกรกับสงครามมนตร์ดำครั้งนี้ แต่เมื่อศึกเริ่มสะเด็ดน้ำ อิทธิ (ฉัตรชัย เปล่งพานิช) อดีตผู้กองจอมขมังเวทย์ในตำนานก็ปรากฎตัว แต่สงครามไสยศาสตร์คราวนี้จะจบลงเช่นไรต้องติดตาม

หลังทิ้งห่างจากภาคแรกไปถึง 15 ปี ต้อม ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์ ได้กลับมารื้อปัดภาคต่อหนัง จอมขมังเวทย์ อีกครั้ง โดยสิ่งที่เราสังเกตได้เลยคือการเก็บเล็กผสมน้อยเหตุการณ์บ้านเมืองต่าง ๆ เอามาสอดแทรกไว้ในหนังเสมือนเป็นบทบันทึกประวัติศาสตร์ด้านความเชื่อความศรัทธาหรืองมงายย่อม ๆ ทั้งการบูมของธุรกิจไลฟ์โค้ช ธุรกิจวัตถุมงคลที่มีตลาดระดับหลายพันล้าน หรือแม้กระทั่งการล้อเลียนเหตุการณ์ที่

พลตำรวจเอก ศรีวราห์ ไหว้ นายเปรมชัย (คดีฆ่าเสือดำ) ก็กลายเป็นกลไกหลักในการสร้างให้ผู้ร้ายในหนังดูเหนือมนุษย์และกฎหมายเอื้อมมือไม่ถึง แม้ในภาพรวมต้องยอมรับว่าหนังเองมีจุดบกพร่องแบบ เอาปากกาแดงวงคำผิดก็คงแดงเถือกเป็นหย่อม ๆ ทั้งการไม่อธิบายที่มาที่ไปหรือให้เราได้รับรู้ปมลึก ๆ ในใจตัวละคร หรือกระทั่งการไม่อธิบายกระทั่งการใช้พลังคุณไสย จนคนไม่เคยดูภาคแรกอาจงงกับตรรกะการต่อสู้เชิงอาคมในเรื่องได้ แต่หนังก็เอาตัวรอดและกลบข้อด้อยด้วยพลังของนักแสดงและการอัดฉากบู๊ให้ตื่นเต้นมาแบบแทบไม่ได้พักเลย

รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์

หมาก-ปริญ สุภารัตน์

สำหรับพลังของนักแสดงต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ตัวอย่างหนังเราจะเห็นการ “ปล่อยของ” ของเหล่านักแสดงไม่ว่ารุ่นใหญ่อย่างพี่นก ฉัตรชัย หรือ พี่นก สินจัย ที่แทบไม่ต้องห่วงเรื่องฝีมือกันแล้ว แต่ที่น่าจับตามองมาก ๆ คือเหล่านักแสดงรุ่นใหม่จากละครช่อง 3 ทั้ง หมาก-ปริญ ที่ต้องยอมรับเลยว่าการแสดงแบบภาพยนตร์ทำให้หมากได้ใช้แอ็กติงที่ลึกกว่าละครได้อย่างน่าชื่นชม

แม้ว่าในภาพรวมคนที่ขโมยซีนหนังทั้งเรื่องกลับตกเป็นของ ก็อต จิรายุ ที่ปล่อยให้ความคลั่งของตัวละครพาเขาไปสุดทางมากกว่า ติดก็แต่ว่าด้วยความโดดเด่นของรูปร่างหน้าตาเลยทำให้ความลับที่หนังต้องการปกปิดกลายเป็นเห็นแว่บแรกก็รู้แล้วว่าคนเดียวกันเท่านั้นเอง ส่วนคิตตี-ชิชา ก็พิสูจน์แล้วว่าใบหน้าสดไม่อาจทำให้เสน่ห์เธอลดลงได้เลย มิหนำซ้ำยิ่งมองเรากลับหลงรักกระทั่งขี้แมงวันบนหน้าเธอเสียอีก

ส่วนการแสดงและน้ำเสียงที่ดูเป็นตำรวจสาวแกร่งก็เย้ายวนได้แบบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ เสียดายก็แต่ แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา สาวสวยมากความสามารถจากช่อง 3 ที่หนังใช้เธอได้ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่นัก

รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์

รีวิวหนังไทย จอมขมังเวทย์

แพร์-พิชชาภา พันธุมจินดา
ด้านฉากแอ็กชัน แม้หนังจะดูออกว่าได้ทุนสร้างที่จำกัดจำเขี่ย แต่ต้อม ปิยะพันธุ์ ก็อุตส่าห์ใช้ความครีเอทีฟมานำเสนอมุมมองแอ็กชันใหม่ ๆ ได้อย่างน่าชื่นชม แม้ว่าฉากต่อสู้ประชิดตัวจะใช้การตัดต่อมาช่วยเยอะไปหน่อยจนขาดความดิบอันน่าตื่นเต้น แต่ฉากไสยเวทย์ต่าง ๆ ก็จัดเต็ม แม้ว่างานซีจีเราจะสู้ฮอลลีวูดยังไม่ได้แต่ถ้านับจาก ซีจีควายธนู ในหนังภาคแรกแล้วก็ถือว่ามาไกลทีเดียว

แถมต้อมยังเหมือนยำใหญ่องค์ประกอบแบบฮอลลีวูดมาจัดให้คนไทยแบบถึงเครื่องโดยเฉพาะสัตว์ไสยเวทย์ที่แทบมีมูฟเมนต์การปรากฏตัวแบบนึกถึง ทรานส์ฟอร์มเมอรส์ ขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้เลยหละ

โดยภาพรวมแล้ว จอมขมังเวทย์ 2020 ถือเป็นหนังไทยที่ให้ความบันเทิงได้ไม่ขี้เหร่เลย บทหนังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่น่าสนใจ แม้ว่าจะมีช่องโหว่ประปรายแต่ก็ทดแทนด้วยฉากแอ็กชันและพลังการแสดงอันเข้มข้น แนะนำอย่างเดียวคือควรดูภาคแรกก่อนเข้าชมจะได้ไม่งงกับตรรกะด้านอาคมในเรื่องครับ

15 ปีคือระยะเวลาที่หนัง “จอมขมังเวทย์ 2020” ได้ทิ้งช่วงห่างจากเหตุการณ์ในหนังภาคแรก โดยเรื่องราวในภาคนี้ไปโฟกัสอยู่ที่ตัวละครใหม่อย่าง วิน (หมาก-ปริญ สุภารัตน์) ลูกชายเจ้าของค่ายมวยดังย่านนนทบุรี ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวหลังจากที่พ่อของเขาถูกลอบสังหารจากฆาตกรลึกลับ เพื่อชิงเครื่องรางของขลังที่พ่อติดตัวไว้ตลอดเวลา จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้วิน ตัดสินใจกระโจนเข้าสู่การสักยันต์และนำ “ของ” ตามความเชื่อโบราณเข้ามาใส่ในตัวเอง

จอมขมังเวทย์ 2020 ติดเครื่องความตื่นเต้นให้คนดูอย่างรวดเร็ว ด้วยการซัดฉากแอ็คชั่น การต่อสู้ในสไตล์หมัดมวยมือเปล่ากันตั้งแต่ฉากแรก ใส่จุดพลิกผันให้ตัวละครอย่างวินกระโจนเข้าสู่ด้านมืด แม้ว่าผู้ชมจะไม่ได้เห็นใบหน้าของฆาตกร แต่ด้วยองค์ประกอบแวดล้อมของหนังก็เอื้อให้คนดูคาดเดาได้ทันทีว่าคนร้ายของเรื่องคือใคร

แต่ถึงผู้ชมจะรู้ตัวคนร้ายอยู่แล้ว หนังก็ยังดำเนินต่อไปได้อย่างเปี่ยมอรรถรส เมื่อ จอมขมังเวทย์ 2020 พาคนดูไปสำรวจความเชื่ออันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น แนวคิดของคนรุ่นเก่าที่เชื่อว่า ต่อให้คนเรามีความสามารถด้วยความพยายามมากแค่ไหน “ไสยศาสตร์” เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะผลักดันให้มนุษย์มุ่งหน้าสู่ความสำเร็จได้มากขึ้นเท่านั้น สวนทางกับคนรุ่นใหม่อย่างวิน ที่มองว่าความสำเร็จของคนยุคปัจจุบันคือความมุมานะพยายามด้วยตัวเองเท่านั้น

หนังยังความเชื่อสำหรับคนยุคปัจจุบัน

อันว่าด้วยพลังของจักรวาล พลังบวกจากสิ่งรอบตัวและการโอบรับความสุขที่เกิดขึ้น ถูกนำเสนอผ่านองค์กรของครูเมย์ (นก-สินจัย เปล่งพานิช) ซึ่งเต็มไปด้วยบรรดาผู้ที่ศรัทธาในแนวคิด “เราต้องคิดว่าเราคือสุดยอด แล้วเราก็จะสุดยอด นี่คือกฎของจักรวาล” อย่างมากมาย จนนำไปสู่การบูชาเครื่องรางของขลังที่ทำกำไรให้กับองค์กรนี้อย่างมหาศาล

ตัวละครแต่ละตัวในหนังเรื่องนี้ล้วนพัวพันอยู่กับความเชื่อในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การเชื่อในไสยศาสตร์เพราะต้องการ “เหนือกว่า” คนอื่น เชื่อในความถูกต้องตามครรลองของกฎหมาย เพราะในชีวิตมนุษย์ล้วนต้องเคารพในกติกาของสังคม เชื่อในการล้างแค้นเพราะจะนำมาซึ่งความสงบในจิตใจ โดยไม่ว่าตัวละครในหนังเรื่องนี้จะมีแนวคิดแบบไหนก็ตาม พวกเขาใช้มันเป็นแรงผลักดันของชีวิตทั้งสิ้น

นอกเหนือจากประเด็นความเชื่อแล้ว สิ่งที่เราอดพูดถึงไม่ได้เลย นั่นคือการแสดงที่โดดเด่นของ ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล ที่เรียกได้ว่าเขาออกแบบตัวละคร “ก็อด” ให้น่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า ท่าทาง การเล่นหูเล่นตา หรือน้ำเสียงในการเรียบเรียงประโยค จนเราอาจจะกล่าวได้ว่า เขาเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำที่สุดจากหนังไทยในปี 2019 เลยก็ว่าได้

จอมขมังเวทย์ 2020 จึงถือเป็นหนังแอ็คชั่นภาคต่อ ที่ดูเพลิน มีประเด็นชวนขบคิด และเป็นอีกหนึ่งหนังไทยที่ดูแล้วไม่รู้สึกเสียดายเงิน หรือเสียดายเวลาในรอบปีนี้ครับ

รีวิว จอมขมังเวทย์ 2020 — 7.5/10 คะแนน … พูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าหนังสนุกชิบหาย แล้วยิ่งได้เห็นฉาก End Credit นี่คืออยากจะกรี๊ดเป็นภาษามอญผสมกับร่ายบทสวดคาถาเป็นภาษาตุรกี พีคสัสสๆ เป็นหนังไทยไม่กี่เรื่องที่อยากจะเข้าไปดูซ้ำ ปรบมือให้เลย มันต้องแบบนี้สิวะหนังไทย ชื่นใจจริงๆ
.
..คือไม่คิดว่าหนังไทยเราจะมีแบบนี้กับเขาด้วย เต็มไปด้วยแอคชั่นแบบของโคตรดีและนำเรื่องราวการเล่นของ คุณไสยแบบไทยๆมาเล่าในแบบฉบับอินเตอร์ ส่วนตัวผมชอบภาคแรกเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาเจอภาคนี้ขยายความสนุกของภาคเก่าเข้าไปยิ่งชอบหนักกว่าเดิม และที่สำคัญแบบอยากจะกรี๊ดลั่นโรงเลยก็คือ End Credit แม่งพีคสัสๆ ถือเป็นหนังไทยเรื่องแรกๆเลยมั๊งเนี่ยที่ทำฉาก End credit ได้สะพรึงและขนลุกขนาดนี้ แฟนภาคแรกนี่ ขนตูด ขนจักกะแร้ ขนทุกส่วนในร่างกาย ลุกชูชันแน่นอนเมื่อเจอฉากนี้เข้าไป ..
.
.. จอมขมังเวทย์ 2020 เป็นหนังภาคต่อที่เล่าเรื่องราวของ วิน หนุ่มนักสู้ที่พ่อของเค้าถูกฆ่าตายแล้วชิงเหล็กใหลไป วินที่ตอนแรกเป็นแค่นักสู้ข้างถนนธรรมดา แต่พอเจอเหตุการณ์พ่องตายเข้าไป ถึงกับต้องนำพาตัวเองเข้าสู่ด้านมืดด้วยการเล่นของ

สักยันต์ลงอักขระต่างๆ แล้วทำการออกตามหาคนที่ฆ่าพ่อของเค้า จนได้ไปเจอกับองค์กรพลังอะไรซักอย่างที่มีผู้นำคือ ครูเมย์ ( นก สินจัย ) และ ก็อท ( ก็อท จิรายุ ) บงการอยู่ โดยองค์กรนี้เป็นกลุ่มคนที่เล่นของเหมือนกัน โดยเอาธุรกิจมาบังหน้า แถมยังค้าขายเกี่ยวกับพวกของไสยศาสตร์ต่างๆอีกด้วย ส่วนใครจะเป็นสาเหตุพ่องตายของวิน หรือองค์กรจะไม่เกี่ยวข้องเลย ก็ไปตามดูกันเอาเองแล้วกันนะ ..
.
.. นี่พูดเลยนะว่า จอมขมังเวทย์ 2020 นี่เป็นหนังไทยที่เอาไปขายต่างชาติได้แบบสบายๆเลย และผมคิดว่าพวกฝรั่งน่าจะต้องชอบแน่ๆ ด้วยเนื้อหาที่เรียกว่าเป็นสายดาร์คสำหรับบ้านเรา เรื่องความเชื่อต่างๆ ถึงแม้ว่ามันจะออกแนวเว่อร์ๆหน่อยแต่มันก็สร้างมาจากความเชื่อของกลุ่มคนบางกลุ่มที่เชื่อเรื่องพวกนี้จริงๆ และหนังก็นำเรื่องราวเหล่านี้มาเล่าได้สนุกและน่าติดตามมากๆ

ระยะเวลาของหนังเกือบ 2 ชั่วโมงนี่ไม่มีช่วงเบื่อเลยนะ คือสนุกตั้งแต่ตอนเริ่ม และค่อยๆไต่ระดับความสนุกขึ้นไปเรื่อยๆ จนไประเบิดในตอนท้ายๆ กับฉากสู้กันของตัวเอกกับตัวร้ายในเรื่อง ซีจีในเรื่องนี้ไม่ถึงกับเนียนกริ๊บ แต่ก็ดูแล้วไม่ได้ขัดหูขัดตาหรือขัดใจอะไรเลย เรื่องนี้ถือเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ทำออกมาให้คนไทยด้วยกันเห็นว่า ถ้าเราจะทำเราก็ทำได้ ..

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *