รีวิวหนังไทย มหาลัยเหมืองแร่

รีวิวหนังไทย มหาลัยเหมืองแร่ มหาวิทยาลัยแห่งชีวิตให้บทเรียนที่คุณไม่สามารถเรียนรู้จากไหน ภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมของศิลปินแห่งชาติซึ่งถ่ายทอดออกมาได้อย่างพิถีพิถัน อาจินต์ นิสิตหนุ่มที่ถูกรีไทร์ต้องเดินทางไปยังเหมืองแร่ จังหวัดพังงาเพื่อทำมาหาเลี้ยงตัวเองให้อยู่รอดจากความยากจน และที่นั่นก็ทำให้เขาค้นพบบทเรียนชีวิตสำคัญที่แม้กระทั่งมหาวิทยาลัยก็ไม่มีสอน เป็นหนัง Coming of Age สะท้อนการเปลี่ยนผ่าน การเติบโตที่จะทำให้คุณอิ่มเอมหัวใจ หลายคนยังชื่นชมที่หนังถ่ายทอดบรรยากาศในสมัยนั้นได้อย่างสมจริง

เรื่องย่อ
เรื่องจริงที่ดัดแปลงมาจากชีวิตจริงของคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ที่ออกมาหาประสบการณ์ชีวิตในขณะที่ 22 ปี หลังโดดรีไทร์ออกจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศและมุ่งหน้ามาหาประสบการณ์ชีวิตที่เหมืองดีบุกในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มันเป็นการค้นหาโลกอีกใบที่เขาไม่เคยสัมผัสในตำราเรียน โชคดีที่เขาเรียนวิศวะมาทำให้เข้าใจภาษาอังกฤษและสื่อสารกับนายหัวเจ้าของแร่จนได้รับความไว้วางใจ มันคือการเรียนรู้ชีวิตจริงที่เราไม่สามารถไปหาที่ไหนได้เลย

หนังเรื่องนี้เหมาะกับใคร
สำหรับ มหา’ลัย เหมืองแร่ เป็นหนังที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรืื่องราวที่เกี่ยวกับชีวประวัติบุคคลสําคัญ หนังดัดแปลงจากหนังสือที่เล่าให้เห็นชีวิตการต่อสู้ที่ยากลำบากของคน ที่ต้องเจอบททดสอบชีวิตที่แปลกใหม่แตกต่างไปจากสิ่งที่เคยเผชิญหน้ามา อารมณ์ภาพจะสื่อสารออกมาดูเป็นธรรมชาติกว่าหนังไทยในท้องตลาด บวกกับการแสดงของ พิชญะ วัชจิตพันธ์ แบกเนื้อหาไว้ได้ยอดเยี่ยม สอดแทรกมุมมองใช้ชีวิตที่ไม่ได้อิงตำราเรียนไว้ได้คมคายเนื้อหาค่อนข้างสมจริงมาก

หน้าหนังอาจไม่ดึงดูดใจคนไทย พระเอกหน้าใหม่ในตอนนั้น ไม่ใช่ดาราบิ๊กเนมมาเป็นคนนำเรื่อง หนังไม่มีนางเอก เนื้อหาไม่มีความรัก เน้นความจริงประสบการณ์ชีวิตซึ่งตรงนี้แหละคือสิ่งที่ดีงามและเราคงหาไม่เจอแน่ๆจากหนังไทยเรื่องอื่นๆ การเล่าเรื่องทำให้คนได้รู้จักตัวตน อาจินต์ ปัญจพรรค์ เด็กหนุ่มจากเมืองหลวงที่มาทำงานเป็นกรรมกรเหมืองแร่ แถมยังได้เสียงตัวจริงมาบรรยายให้อีก ทำให้ได้เนื้อเรื่องที่ดูจริงจัง ภาษาสระสลวย ในแต่ละประเด็นที่เขาไปสัมผัสมาในแต่ละเหตุการณ์แต่ละชั้นปี แวดล้อมใหม่ ภาษาที่ไม่คุ้นเคย คนมากหน้าหลายตาที่สบประมาทในตัวเขา ว่าง่ายๆคือประสบการณ์ชีวิตที่มาฝึกสอนให้เขาได้รู้จักกับความรับผิดชอบ ความอดทน ความเป็นมืออาชีพในการทำงาน ได้เรียนรู้มิตรภาพจากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งหาไม่ได้จากมหาวิทยาลัย เว็บดูหนัง

มหาลัยเหมืองแร่ คุณได้อะไรจากหนังเรื่องนี้ - Pantip

หนังเล่าเรื่องได้ละมุนละไม ตั้งแต่งานสร้าง บทภาพยนตร์ นักแสดง งานภาพ งานตัดต่อ ทุกอย่างลงตัว หนังให้แง่คิดเตือนสติคนเราได้อย่างคมคาย การปรับตัวในการทำงานคือสิ่งสำคัญ เรียนรู้เข้าใจผู้อื่นที่เราต้องไปทำงานด้วย ทำให้เด็กเมืองกรุงได้เข้าใจชีวิตคนเหมืองที่ยากลำบาก หนังปรุงแต่งให้เป็นธรรมชาติเหมือนไปสัมผัสช่วงเวลาปี 2492 เราได้เห็นวัฒนธรรมแบบคนใต้ การทำงานเหมืองแร่ที่แท้จริงมันเป็นอย่างไร ในยุคก่อนอยู่ในสภาพทุลักทุเลยากลำบาก สภาพอากาศทางใต้ฝนตกชุก เต็มไปด้วยโคลน ชีวิตก็เต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งตัวหนังทำหน้าที่ได้ดีงาม มีเพลงประกอบที่บรรเลงให้เข้าถึงอารมณ์ดราม่ายุคเก่า ที่ดูจริงจังสร้างประสบการณ์ร่วมให้แก่ผู้ชมมากๆ มันทำให้เราได้เข้าใจเรื่องราวอันยิ่งใหญ่ของอาจินต์ ณ เหมืองแร่และทำให้เขามีแรงบันดาลใจจนกลายเป็นนักเขียนดังในเวลาต่อมา

ชื่นชมการเลือกนักแสดงนำที่โนเนมในเวลานั้น พิชญะ วัชจิตพันธ์ เราคิดว่าอินเนอร์ความเป็นธรรมชาติของคน มันจะมาจากตัวตนจริงๆไม่ต้องมาปรุงแต่งอะไร ทำให้เขาสวมบทบาท อาจินต์ได้เลย ความใส่ซื้อออกมาเต็มที่ แสดงให้เห็นภาพของชายหนุ่มที่เข้าใจโลกใบใหม่ ที่เขาไม่มีวันเจอแน่ๆ อยู่กับชาวบ้าน บรรยากาศดูเถื่อน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือความสุข ตัวละครดูจะท้อแท้สิ้นหวัง แต่ความรู้ความสามารถที่มีกลับซื้อใจเพื่อนร่วมงาน เจ้านายจนทำให้เขาได้เป็นหัวหน้า พูดเลยว่า พิชญะ สอบผ่านมากกับบทบาทนี้ หนังฟรี

รีวิว หนังมหา'ลัยเหมืองแร่: โลกกรรมกรสุดโรแมนติกของชนชั้นกลาง

 

ด้วยคำสั่งของบิดา คนหนุ่มคนนี้นั่งรถฝ่าดงโคลนที่ชื้นแฉะจนทำรถติดหล่ม ผ่านพื้นที่แสนทุรกันดาร เข้าไปยังเหมืองแร่ห่างไกลความเจริญ ที่ อ.กระโสม จ.พังงา เพื่อหวังหางานทำเป็นบทเรียนชีวิต

ในช่วงเวลา 3 ปีกว่า เกือบ 4 ปี เขาได้เรียนรู้วิถีชีวิตที่แตกต่างจากที่เขาเคยรู้จักอย่างสิ้นเชิง จาก ‘คนเมือง’ ลูกข้าราชการในกรุงเทพ ต้องพลิกผันมาเป็น ‘คนเหมือง’ เป็นกรรมกรใช้แรงงานแลกค่าแรงจากนายฝรั่งวันละไม่กี่บาท ใช้ชีวิตแบบหาเช้ากินค่ำไปวันๆแบบไม่ต้องคิดถึงอนาคตมากนัก

อาจกล่าวได้ว่า เหมืองแร่กระโสมในฉากหลังเปื้อนควันสีน้ำตาลอ่อน ภายใต้แสงส้มของดวงตะวันยามเย็นและไฟเหลืองที่ห้อยอยู่ตามหลังคาเรือขุด เป็นมหา’ลัยชีวิตของอาจินต์ ปัญจพรรค์ คนหนุ่มผู้นี้ ที่นี่ เขาได้เรียนรู้ทักษะชีวิตมากมายที่ในมหาวิทยาลัยไม่มีวันสอนเขาได้

มหา’ลัยแห่งชีวิต
ในปีแรกเขายังปรับตัวไม่ได้ แม้แต่จะหุงข้าวกินเองก็ยังทำไม่เป็นจนกลิ่นน้ำมันก๊าดซึมเข้าข้าวไปหมด ต้องอาศัยแกงจืดจากลุงแถวบ้านประทังชีวิต แม้รสชาติไม่อร่อยแต่บรรยากาศที่ได้นั่งซดน้ำแกงอยู่ใต้เพิงหมาแหงนพอให้คลายความคิดถึงบ้านลงได้บ้าง

แรกเริ่มเขาเป็นเพียงกรรมกรช่วยงานทั่วไปในเรือขุด ความรู้จากคณะวิศวะบวกกับการเป็นคนหนุ่มทำให้เขามั่นใจในตัวเองเสียหนักหนา แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า แค่สั่งน็อตมาซ่อมเรือขุดเขายังเขียนรายการผิด ความไม่มีประสบการณ์ทำให้เขาต้องตั้งใจอย่างจดจ่อ เรียนรู้จากคนอื่นๆที่แม้ระดับการศึกษาต่ำกว่าเขา แต่ก็ชินและช่ำของในงาน เรือขุดนี้มีพี่จอน ฝรั่งที่พูดสำเนียงใต้ไฟแล่บเป็นนายหัวเรือขุด หนังไม่ได้บอกว่าพี่จอนมาจากไหน รู้แต่ว่าแกเป็นคนสู้งานและคุมทุกคนได้อยู่ แกมีพรรคพวกที่คอยเดินตามเมื่อตรวจเรือขุด และดูเหมือนว่าเหมืองนี้เป็นเลือดเนื้อและชีวิตแก หนังใหม่

มหา'ลัย เหมืองแร่ หนังโคตรดี ครบรอบ15 ปี อดีตคือความฝัน ปัจจุบันต้องอด(ทน)  - Major Cineplex รอบฉายเมเจอร์ รอบหนัง จองตั๋ว หนังใหม่

วันหนึ่งเจ้านายฝรั่งให้อาจินต์คอยจับตามองขโมยที่จะมาขโมยแร่ที่เหมือง แม่อาจินต์เฝ้าอยู่ เขากลับเห็นพี่จอนกับพรรคพวกมาขนแร่ไป อาจินต์โกรธจัด เทศนาทุกคนว่าแร่นี้เป็นของนายฝรั่ง เพราะเครื่องมือเครื่องจักรและค่าแรงทุกอย่างเป็นของนาย แต่คนขนแร่กลับตอกกลับมาว่าแร่นี้อยู่ในแผ่นดินไทย ไม่สมควรให้ฝรั่งมาเอาไป ความขัดแย้งก่อตัวขึ้นชัดในใจอาจินต์เสียจนเขาเดินไปลาออกในวันรุ่งขึ้น หารู้ไม่ว่าเขาจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากบทเรียนนี้

เมื่อกร้านขวบวัยมากขึ้น อาจินต์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นคนทำแผนที่ เขาได้ลูกมือมาช่วยคนหนึ่ง คือไอ้ไข่ ผู้ซึ่งยิ้มแย้มตลอดเวลาและมีนิสัยเหมือนเด็ก อาจินต์เล่าว่าเขาและไอ้ไข่แชร์วิถีประชาธิปไตยกันอยู่ เพราะตอนเช้าเขาจะเป็นคนเดินตัวปลิวไปเขียนแผนที่ แต่ตอนเย็นไอ้ไข่จะเป็นคนเดินมือเปล่านำหน้าไปก่อน ด้วยเหตุผลว่า ‘เลิกงานแล้ว’ ไอ้ไข่กลายมาเป็นเพื่อนสนิทที่นั่งท้ายรถกระบะลุยโคลนไปกับเขา แหวกพงหญ้าเข้าไปวางไม้วัดพื้นที่ และยังเป็นเพื่อนในวงเหล้ายามเหงา น่าสังเกตว่าเหล้าเป็นสิ่งเชื่อมสายใยของคนในเหมืองที่เป็นผู้ชายล้วนได้อย่างดี แม้กระทั่งนายฝรั่งเองก็ยังดื่มจัดและตั้งวงกับคนงาน พอเมาก็เอาเงินมาแจกเด็กชาวบ้านแถวนั้นไปซื้อเสื้อผ้า วิถีแบบลูกผู้ชายไหลเวียนอยู่ในสายเลือดที่มีแอลกอฮอล์ไหลเวียนอยู่ในนั้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

มุมมองชนชั้นกลางที่ไม่ใช่กรรมกรจริง

รีวิวหนังไทย มหาลัยเหมืองแร่

ในภาพรวม หนังมหา’ลัยเหมืองแร่ให้ภาพเกี่ยวกับโลกการทำงานของชนชั้นกรรมาชีพได้อย่างโรแมนติก เล่าด้วยเหตุการณ์สั้นๆที่จบในตัวเองหลายเหตุการณ์ เพราะตัวหนังสร้างจากเรื่องสั้นชุด ‘เหมืองแร่’ ที่เป็นประสบการณ์จริงของอาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติ แต่ในความโรแมนติกนั้น ถ้าเรามองทะลุไป เราจะเห็นความแร้นแค้นในชีวิตกรรมกร อาจินต์นั้นแทบไม่เหลือเงินสักบาทตอนเขาออกจากเหมืองแร่ เพราะเอาเงินไปซื้อเหล้าหมดแล้ว กรรมกรคนอื่นก็ระหกระเหินไม่ต่างกันเมื่อเหมืองแร่ปิด และต้องใช้ชีวิตแบบไม่รู้อนาคตและไม่รู้จะได้กลับมาเจอกันเมื่อใด ในความโรแมนติกที่เล่าจากสายตาชนชั้นกลางของอาจินต์ เราจะเห็นแง่ที่ไม่งามของมันได้จากคำขอของนายฝรั่งที่ให้อาจินต์สัญญาว่าจะไม่มาใช้ชีวิตแบบนี้อีก พร้อมซื้อตั๋วเครื่องบินให้เขากลับกรุงเทพ เมื่อลองคิดดูแล้ว หากอาจินต์เป็นเพียงกรรมกรคนหนึ่งที่มีฐานะเท่าๆกับกรรมกรคนอื่นๆที่เหมือง เขาอาจไม่ได้มองเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องโรแมนติกแบบ Good Old Day ก็ได้ เพราะเขาไม่มีตาข่ายกันตกที่ชื่อว่าครอบครัวเช่นชนชั้นกลางแบบอาจินต์ – อาจินต์ที่เป็นชนชั้นกลางนั้นมีบ้านให้กลับไปเสมอ และที่บ้านพร้อมจะให้การสนับสนุนเขาแม้เขาจะไม่มีงาน แต่กรรมกรทั่วไปไม่ได้เช่นนั้น พวกเขาไม่รู้ว่าจะหางานได้อีกไหม และจะมีข้าวตกถึงท้องอีกเมื่อใด คงไม่มีใครมีอารมณ์มาเขียนเรื่องเล่าชุดที่ตีพิมพ์จนขายดีแบบอาจินต์ได้ เว็บดูหนังฟรี

หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) | มหา'ลัยเหมืองแร่

ในแง่หนึ่ง มหา’ลัยเหมืองแร่ และเรื่องสั้นชุดเหมืองแร่ ที่กำกับและเขียนโดยชนชั้นกลาง จึงเป็นแค่การมองไปที่โลกของกรรมกรอย่างคนที่อยู่ข้างนอก ที่มาลิ้มรสความลำบากเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เมื่อออกมาจากโลกแห่งนั้น เขาก็ยังมีที่ให้ไปต่อ ด้วยต้นทุนทางสังคมและการศึกษาที่มากกว่า ตัวเนื้อเรื่องไม่ได้ผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมทางชนชั้นมากขึ้น เพราะยังคงมองชีวิตกรรมาชีพเป็นสิ่งแปลกใหม่ น่าพิศวง (Exotic) เพราะแตกต่างจากชีวิตคนเมือง อย่างไรก็ตาม หนังก็ได้ทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์ในการให้ความบันเทิงและตอบกลุ่มคนดูชนชั้นกลางได้ดี จนได้รับรางวัลหลายรางวัล และได้ขึ้นทำเนียบหนึ่งในหนังไทยที่ดีที่สุด
อาจินต์ ปัญจพรรค์ กล่าวเอาไว้ตอนที่เค้าทำงานเหมืองที่กระโสม จังหวัดพังงาได้ครบ 1 ปี พร้อมกับผ่านบททดสอบจากนายฝรั่ง จนได้ขึ้นเงินเดือน อาจินต์พบว่า ชีวิตการทำงานในเหมืองแร่ คือการเรียนรู้ที่จะทำหน้าที่ของตัวเองตามความรับผิดชอบ มหา’ลัยเหมืองแร่ คือมหา’ลัยชีวิต ที่ อาจินต์ ปัญจพรรค์ ศึกษาด้วยตัวเอง ผ่านชีวิตการทำงานของอดีตนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ถูกไล่ออก อาจินต์กล่าวเอาไว้ในตอนต้นเรื่องว่า เหมือนแร่คือตู้ใส่กับข้าวใบสุดท้ายในชีวิตของเค้า และเวลาสี่ปีในการทำงานที่เหมือนแร่ของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ ก็ได้ถูกถ่ายทอดร้อยเรียงออกมาเป็น วรรณกรรมอันทรงคุณค่า เรื่องสั้นชุดเหมืองแร่ และเรื่องสั้นชุดเหมืองแร่นี้เองก็ได้ถูกนำมาถ่ายทอดเป็นภาพยนตร์เรื่อง “มหา’ลัยเหมืองแร่” อย่างปราณีต โดยผู้กำกับคุณแก้ง จิระ มะลิกุล

ถ้าจะบอกว่าภาพยนตร์เรื่อง “มหา’ลัยเหมือนแร่” ดีงามอย่างไร ผมก็อยากจะบอกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังเรื่องแรกๆของทาง GTH คุณเก้งน่าจะอยากฝากผลงานเอาไว้เป็นพอร์ตงานให้คนจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ถึงการทำงาน เพราะตลอดทั้งเรื่องที่ได้ดู ผมแทบหาอะไรผิดพลาดไม่เจอเลย ไม่ว่าจะเป็นงานสร้าง บทภาพยนตร์ ไปจนถึงการแสดง งานอาร์ท งานภาพ งานตัดต่อ ทุกอย่างถูกรังสรรค์เอาไว้อย่างงดงาม และลงตัว ด้วยตัวบทประพันธ์ดั้งเดิมของคุณ อาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติ ที่มีความงดงามทางด้านภาษาอยู่แล้ว เนื้อหาทั้งเรื่องจึงเล่าและถ่ายทอดโดยตัว อาจินต์ ปัญจพรรค์ เด็กหนุ่มที่มาทำงานเป็นกรรมกรเหมืองแร่ในปีแรก

หนังบอกเล่าด้วยน้ำเสียงของตัวละครที่รับบทเป็น อาจินต์ ปัญจพรรค์ ด้วยภาษาที่สละสลวย ด้วยความเคารพในบทประพันธ์ ความสละสลวยของภาษา การเล่าเรื่อง ไม่ได้ทำให้หนังดูตลกหรือแปร่งเลย แต่มันกลับเต็มไปด้วยความกระหายที่จะอยากดูอีก อยากยกบางช่วงของบทบรรยายในหนังที่ผมชอบมากมาให้อ่าน

“ปีเดือนอันลุ่มๆดอนๆค่อยๆรวมชีวิตของผมให้กร้านและเกรียม เอาความบ้าบิ่นทำงานใส่มือไว้ เพื่อปลอบใจว่าเราไม่ใช่ผู้ชายที่เกียจคร้าน เอาการโลดโผนมาใส่ไว้เป็นมหรสพ แล้วเอาเหล้าคอยกลั้วไว้ไม่ให้ฝืดแห้งจนเกินไป”

ถ้าถามผมว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงมีคุณค่า ผมคงต้องบอกว่า คุณค่าของหนังเรื่องนี้คือการนำกลับมาดูกี่รอบๆ ก็ให้แง่คิด ให้สติในการใช้ชีวิตและสอนให้ผมได้เรียนรู้ ปรับตัวในการทำงาน ไม่ว่าคุณจะทำงานอิสระหรือเป็นมนุษย์เงินเดือน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเรียนรู้ผู้ร่วมงานและคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการทำงาน ดูหนังฟรี

มหาลัยเหมืองแร่ Archives - Gmtrocks.com
ตลอดเวลาเกือบๆสองชั่วโมงของหนัง บอกเล่าเรื่องราวการทำงานในเหมืองแร่ของ อาจินต์ ปัญจพรรค์ จากเด็กหนุ่มรั้วจามจุรีที่มาจากกรุงเทพ ต้องมาเจอกับชีวิตชาวเหมือง ต้องมาอยู่กับชาวบ้าน มาอยู่กับคนใต้ ที่มองจากสภาพภายนอก ส่วนใหญ่ก็ดูจะเถือนๆดิบๆ ได้เรียนรู้จักการทำงาน ความซื่อสัตย์ในหน้าที่ในอาชีพ ตลอดจนถึงการรักในงานที่ทำ หนังนำเสนอการพัฒนาการของตัวละครอย่าง อาจินต์ ปัญจพรรค์ ที่ในช่วงปีแรก เค้าท้อแท้แทบจะอยากกลับบ้าน แต่เมื่อทำงานต่อไปเรื่อยๆ เรากลับพบว่าเค้าเริ่มที่จะทำงานอย่างมีความสุข ทุกๆคนในที่ทำงาน รวมถึงนายฝรั่ง ก็คือคนที่ทำให้เค้าอยากตื่นไปทำงานทุกวัน หรือแม้แต่การเรียนรู้ในการปรับตัว เมื่อเค้าได้เจอกับเจ้านายคนใหม่ ที่มองภายนอกแล้ว ไม่น่าจะเป็นคนดีหรือดีกับลูกน้องได้เหมือนเจ้านายคนเก่า แต่การตัดสินคน ผ่านการมองจากภายนอก มันก็ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์ได้เท่ากับการได้เห็นและได้สัมผัสในสิ่งที่เค้าทำ

ความฉลาดของการแคสติ้งที่ใช้นักแสดงหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ทำให้เราเชื่อในตัวนักแสดงว่าเป็นผู็สวมบทบาทนั้นจริงๆ โดยเฉพาะ สนเดอะสตาร์และนายฝรั่ง รวมถึงพระเอกของเรื่องที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่อีกด้วย(ไม่รู้หายไปไหน)

“มหาลัย’เหมืองแร่” สมบูรณ์แบบ ในทุกองค์ประกอบ รวมถึงงานโปรดักชั่น กำกับศิลป ถ่ายภาพ สมบูรณ์แบบทุกด้าน จนนึกไม่ออกเลยว่าด้วยทุนสร้างที่สูงถึง 70 ล้านแต่ทำรายได้ไปแค่ 19 ล้าน (บางแหล่งข้อมูลบอกว่าได้ 30 ล้าน) มันคงจะเป็นหนังที่ขาดทุนมโหฬาร แต่ในวันนี้ เราพูดได้เต็มปากแล้วว่า แม้หนังจะขาดทุนมหาศาล แต่ “มหา’ลัยเหมืองแร่” ก็คือหนังไทยเรื่องหนึ่งที่ยอดเยี่ยม และงดงามที่สุดตลอดกาล!! ดูหนังออนไลน์

สามารถรับชมมหา’ลัยเหมืองแร่ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *